น็อต

น็อต นำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

รูปร่างลักษณะของน็อตมีอยู่ด้วยกันหลายแบบ สำหรับการยึดวัตถุสองชิ้นให้ติดกัน มีหน้าที่คล้ายตะปูแต่จะอาศัยแรงหมุนเพื่อให้เกลียวเคลื่อนเจาะทะลุเข้าไปในเนื้อวัตถุได้ โดยทั่วไปคนส่วนมากมักเรียกสกรูน็อตรวมกันว่า “น็อต” อันที่จริงแล้ว “สกรู” และ “น็อต” นั้นมีความแตกต่างกันซึ่งอาจทำให้เกิดความสับสนระหว่างผู้ซื้อ และผู้ขายได้ในการเลือกใช้จึงควรเลือกให้เหมาะสมกับลักษณะงานคนรู้จักกันในชื่อ “น็อตตัวเมีย” หรือ “หัวน็อต” นั้น มีลักษณะที่สำคัญ คือ มีรูปร่างคล้ายกับแหวน มีรูตรงกลางเป็นวัสดุที่จำเป็นอย่างมาก

น็อตมีกี่ประเภท

ในการเลือกใช้จึงควรเลือกให้เหมาะสมกับลักษณะงาน เพื่อให้นำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ วัสดุ รวมถึงลดปัญหางานสะดุดหรือความล้าช้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเนื่องจากการใช้น็อตผิดประเภทได้ โดยประเภทของน็อตมีดังนี้

1. น็อตหกเหลี่ยม (Hex Nuts)

เป็นน็อตที่เห็นได้บ่อย ๆ ในงานช่างทั่วไป ลักษณะของน็อตหกเหลี่ยม คือ รูปร่างภายนอกจะมีมุมทั้งหมดหกเหลี่ยมมีรูตรงกลาง และมีเกลียวภายในเพื่อใช้หมุนหรือขันให้เข้ากับสกรู ซึ่งน็อตหกเหลี่ยมนั้นยังสามารถแบ่งแยกออกไปได้อีกหลากหลายประเภท

หน้าที่ของน็อตหกเหลี่ยม คือ ล็อคตัวสกรูยึดวัสดุไว้ให้มีความแน่นหนามากขึ้น ป้องกันการคลายหรือหลุดของตัวสกรู ซึ่งอาจส่งผลต่อความเสียหาย ทำให้วัตถุทั้ง 2 ชิ้นเลื่อนหลุดจากกัน ในส่วนของหลักการทำงานทั่วไปของน็อตหกเหลี่ยม คือ ใช้สกรูร้อยผ่านรูตรงกลางของน็อต เพื่อยึดวัตถุทั้ง 2 ชิ้นตามตำแหน่งที่ได้กำหนดไว้ จากนั้นใช้ไขควงหรืออุปกรณ์เครื่องมือช่าง เพื่อที่จะหมุนเกลียวของน็อตหกเหลี่ยมให้เข้าที่ เป็นการป้องกันไม่ให้วัตถุทั้ง 2 ชิ้นแยกจากกัน

2. น็อตหกเหลี่ยมมีบ่า (Flanged Nuts)

ลักษณะของน็อตหกเหลี่ยมมีบ่า คือ ส่วนภายนอกมีลักษณะที่เป็นหกเหลี่ยมแต่ส่วนล่างของน็อตมีบ่ายื่นออกมา ทำให้น็อตชนิดนี้ถูกเรียกว่า เหลี่ยมมีบ่า หรืออีกชื่อ คือ น็อตหัวเหลี่ยมมีบ่า โดยจะมีรูตรงกลางและมีเกลียวเพื่อให้สามารถหมุนเข้ากับสกรูได้ ข้อดีของน็อตหกเหลี่ยมมีบ่า คือ ช่วยลดขั้นตอนความยุ่งยากในการประกอบตัวน็อตเข้ากับแหวนรองน็อต และเหมาะสมกับงานในลักษณะที่ต้องการความแข็งแรงและแน่นหนาสูงเป็นพิเศษ

3. น็อตหัวหมวก (Domed /Acorn Nuts)

น็อตหัวหมวกถือได้ว่าเป็นอีกประเภทของน็อตหกเหลี่ยม ลักษณะคือ ภายนอกจะมีรูปร่างเป็นเหลี่ยม ๆ หกมุม ด้านบนจะมีส่วนที่เพิ่มขึ้นมาคล้ายคลึงกับหมวก ทำให้ถูกเรียกว่า น็อตหัวหมวก ประโยชน์ของการมีหมวกนั้น คือ เพื่อความสวยงามของชิ้นงาน สามารถช่วยปกปิดส่วนปลายของสกรูเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการเดินชน เดินเฉี่ยวตัวน็อตได้ โดยการเลือกใช้น็อตชนิดนี้จะต้องมีการคำนึงถึง ขนาดความยาวของตัวสกรูเพื่อให้เหมาะสมและเข้ากับน็อตมากที่สุดด้วย

4. น็อตหัวผ่า (Slotted Nuts)

น็อตหัวผ่ามีลักษณะที่สามารถจดจำได้ง่าย คือ ตัวน็อตภายนอกจะเป็นเหลี่ยมหกมุม บริเวณด้านใดด้านหนึ่งยื่นออกมาเป็นร่อง ลักษณะการใช้งานของน็อตหัวผ่าจะแตกต่างกับน็อตชนิดอื่น ๆ คือ ต้องใช้สกรูชนิดพิเศษที่มีช่องเล็ก ๆ ไว้เสียบกับตัว Pin เมื่อทำการประกอบน็อตเข้ากับสกรูและขันน็อตให้แน่นเข้าที่ตามต้องการแล้วนั้น ผู้ใช้งานจะต้องใช้ Pin เสียบผ่านช่องในส่วนของสกรู ให้ส่วนปลายของ Pin ทั้ง 2 ด้านตกอยู่ภายในร่องของน็อต เพื่อเป็นการเพิ่มความแน่นหนา ทำให้น็อตคลายเกลียวได้ยากมากขึ้นเนื่องจากถูกล็อกไว้จากด้านบน

5. น็อตเชื่อม (Weld Nuts)

น็อตชนิดนี้มีรูปร่างลักษณะเหมือนกับน็อตหกเหลี่ยมทุกประการ แตกต่างกันตรงลักษณะงานที่ใช้ โดยน็อตชนิดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับงานที่ต้องเชื่อมติดกับวัสดุ เช่น งานเชื่อมเหล็ก เป็นต้น โดยลักษณะพิเศษเล็ก ๆ ของตัวน็อตที่สามารถใช้แยกออกจากน็อตชนิดอื่นได้ คือ บริเวณมุมของน็อตจะมีส่วนที่ยื่นออกมาเพื่อใช้เป็นจุดเชื่อมต่อกับวัสดุนั่นเอง ซึ่งน็อตเชื่อมมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด บางชนิดมีบ่าเข้ามา เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานให้สามารถกำหนดตำแหน่งได้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น สำหรับประโยชน์ของน็อตชนิดนี้ คือ ทำให้โลหะชนิดบางมีความแข็งแรงเพิ่มมากขึ้น

6. น็อตล็อค (Lock Nuts)

การใช้งานวัตถุที่ผ่านการขันน็อตและสกรูบางชนิด จำเป็นต้องใช้งานที่มีการสั่นสะเทือนซึ่งส่งผลอาจทำให้เกิดการคลายตัวน็อตได้ ปัจจุบันจึงมีการพัฒนาน็อตล็อคขึ้นมา เพื่อช่วยในการป้องกันการคลายเกลียวจากงานที่มีการสั่นสะเทือน ซึ่งนิยมใช้งานโดยกว้างทั้งในงานก่อสร้าง หรืองานเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ เป็นต้น โดยชนิดของน็อตล็อตมีอยู่ด้วยกันหลากหลายชนิด

7. น็อตหางปลา (Wing Nuts)

ลักษณะของน็อตหางปลา คือ จะมีส่วนที่ยื่นออกมาด้านข้างทั้ง 2 ด้าน คล้ายกับหางปลา น็อตชนิดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อ เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน สามารถลดการใช้อุปกรณ์หรือพึ่งพาเครื่องมือต่าง ๆ ได้ เพราะน็อตหางปลาสามารถที่จะใช้มือในการหมุดบิดเกลียวให้แน่น อีกทั้งยังสามารถประยุกต์ใช้กับงานได้อย่างหลากหลาย 

8. น็อตสำหรับยึด (Cage Nuts)

น็อตที่ใช้สำหรับการยึดอุปกรณ์ หรืออาจะเรียกว่าน็อตยึด มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมด้านข้างจะมีขายื่นออกมา โดยเวลาที่จะประกอบจะต้องบีบขาน็อตและใส่ลงตามช่อง น็อตชนิดนี้พบได้บ่อยในงานที่เกี่ยวกับไฟฟ้า เช่น อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านต่าง ๆ เป็นต้น ข้อดีของน็อตชนิดนี้ คือ ใช้งานง่าย สะดวก สามารถเสียบตัวน็อตเข้าได้เลยทันที

9. น็อตขึ้นลาย (Knurled Nuts)

ตัวน็อตขึ้นลายถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้มือหมุนได้ ไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ เครื่องมือต่าง ๆ เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องถอดประกอบและขนย้ายบ่อย ๆ อีกทั้งยังสามารถใช้กับงานที่ต้องการปรับเพิ่ม ลดความแน่นหนาของการล็อคได้ด้วย

Author: calibration