เครื่องตัดคอนกรีต

เครื่องตัดคอนกรีต เครื่องมือช่าง ที่สามารถเบาแรงช่างได้เป็นอย่างดี

เครื่องตัดคอนกรีต เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือช่างที่สามารถช่วยเบาแรงในการทำงานของช่างได้เป็นอย่างดี เพราะเจ้าเครื่องนี้สามารถตัดบล็อกคอนกรีตให้เป็นบล็อกขนาดเล็ก และยังสามารถใช้ในการตัดกระเบื้อง อิฐและแอสฟัลต์เมื่อต้องการโดยใช้ใบเลื่อย ซึ่งใบเลื่อยจะมีปลายแหลมทำให้สามารถตัดผ่านคอนกรีตและวัสดุที่แข็งได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีการออกแบบเครื่องตัดคอนกรีตแบบมือถือและแบบรถเข็นเดินตามให้เลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสมอีกด้วย ที่สำคัญยังมีขายตามร้านค้าทั่วไปอีกด้วย 

เครื่องตัดคอนกรีตมีกี่ประเภท

เครื่องตัดคอนกรีต สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน ดังนี้

1. เครื่องตัดคอนกรีตเบนซิน

เครื่องตัดคอนกรีตเบนซิน จะใช้น้ำมันเบนซิน 91, 95 หรือ แก๊สโซฮอล์ 91,95 เครื่องตัดถนนคอนกรีตเบนซิน มีกำลังแรงมีให้เลือกหลายขนาดตามความต้องการ ใช้ในการตัดถนน ตัดพื้นคอนกรีต ตัดร่องถนน เครื่องตัดถนนเบนซินเคลื่อนย้ายได้สะดวก

2. เครื่องตัดคอนกรีตดีเซล

เครื่องตัดคอนกรีตดีเซล จะใช้น้ำมันดีเซล เครื่องตัดถนนคอนกรีตดีเซล ลุยงานหนักได้ดี สำหรับรุ่นใหญ่ สามารถใส่ใบตัดขนาดใหญ่ได้ถึง 30 นิ้ว การสตาร์ทอาจจะต้องใช้กำลังถ้าเป็นแบบมือควง แต่ไม่ใช่ปัญหาเพราะมีรุ่นที่เป็นกุญแจสตาร์ททำให้ทำงานได้ง่าย ลุยงานตัดกันได้ยาว ๆ

3. เครื่องตัดคอกรีตมอเตอร์ไฟฟ้า

เครื่องตัดคอนกรีตมอเตอร์ไฟฟ้า มีทั้งแบบมอเตอร์ 220V และ 380V ข้อดีคือไม่มีควันแบบ เครื่องตัดคอนกรีตเบนซิน หรือ เครื่องตัดคอนกรีตดีเซล มารบกวน ส่วนใหญ่ใช้ในงานเฉพาะพื้น งานก่อสร้างพื้นที่ไม่สามารถให้มีไอเสีย อยู่ในพื้นที่หน้างานได้ เช่นงานก่อสร้างใน โรงพยาบาล ห้องทดลอง ห้อง LAB จะใช้เครื่องตัดถนนมอเตอร์ไฟฟ้า แต่จะต้องพักการใช้งานบ่อย ๆ เพื่อยืดอายุมอเตอร์

วิธีการเลือกเครื่องตัดคอนกรีต

1. พิจารณาจากเครื่องตัดคอนกรีตใส่ใบตัดได้เท่าไร

ช่างหรือผู้รับเหมา มีความต้องการ การตัดร่องลึกเท่าไร ถ้าลึกมากใบตัดต้องมีขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น เพื่อที่จะตัดได้ความลึกที่ต้องการ

2. เลือกจากลักษณะงานก่อสร้าง ระยะทางการตัดร่องถนน

หากเป็นงานก่อสร้าง ย้ายบ่อย ระยะทางการตัดร่องถนนยาวไม่มาก เครื่องตัดถนนตัวเล็กก็จะใช้งานได้สะดวก ในการขนย้ายก็สะดวก แต่หากเป็นงานก่อสร้างยาวนาน ระยะทางการตัดร่องถนนมีความยาวมาก เครื่องตัดถนนตัวใหญ่ก็ตอบโจทย์กว่า ทำงานได้ต่อเนื่องมากกว่าและมีกำลังมากกว่านั้นเอง

3. พื้นที่ทำการก่อสร้างมีข้อจำกัด

ยกตัวอย่างถ้าเป็นพื้นที่ไม่สามารถไม่ไห้มีไอเสีย หรือควันจากเครื่องยนต์ เครื่องตัดถนนมอเตอร์ไฟฟ้าก็จะตอบโจทย์

4. พิจารณาจากเครื่องมือที่เรามีใช้อยู่ว่าแหล่งพลังงานแบบไหน

เครื่องมือที่เรามี ส่วนใหญ่เป็นดีเซล หรือ เบนซิน เพื่อความสะดวกในการถ่ายน้ำมันไว้ใช้งานรวมกันได้

การใช้รถตัดคอนกรีตให้อยู่กับเราไปนาน ๆ ทำได้อย่างไร

  1. ไม่ควรเข็นรถตัดคอนกรีตเร็วเกินไปจะให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนัก เกิดแรงเสียดทานสูงมากเกินไปทำให้เครื่องยนต์น๊อคไปทันที เมื่อจะสตาร์ทเครื่องตัดคอนกรีตใหม่จึงไม่ติด การเข็นเครื่องตัดคอนกรีตเร็วเกินไปเพื่อต้องการเร่งให้งานเสร็จเร็ว อาจเกิดผลเสียทั้งระยะสั้นและยาว จากงานที่ต้องเร่งทำให้เสร็จอาจทำให้ไม่สามารถใช้งานรถตัดถนนได้ ส่งผลให้งานเสร็จช้า เสียเวลามากขึ้น หากจำเป็นต้องเร่งงานอาจแก้ปัญหา โดยต้องจัดสรรเวลาการใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด มีการพักเครื่องยนต์บ้าง โดยที่ไม่เสียเวลาการทำงาน
  2. การใช้เครื่องตัดคอนกรีต ควรตรวจสอบระบบน้ำเลี้ยงสามารถใช้งานได้ดี ฝุ่นที่เกิดจากการตัดคอนกรีต ไม่มีมากจนเกินไปจนทำให้ฝุ่นคอนกรีตกลับเข้าไปในไส้กรองอากาศ ทำให้ฝุ่นเข้าไปในคาร์บูเรเตอร์ กระบอกสูบ เมื่อฝุ่นเข้าไปได้ การทำงานของเครื่องตัดถนนก็จะติดขัด จนสามารถทำให้เครื่องตัดคอนกรีต ดับขณะใช้งานได้
  3. หมั่นตรวจสอบ สภาพของเครื่องยนต์ ใบตัดคอนกรีต ใบตัดถนน น้ำมันเครื่อง ไส้กรอง เพื่อยืดอายุเครื่องตัดถนน ทำให้ไม่ต้อง ซ่อมเครื่องตัดคอนกรีต หรือ เปลี่ยนเครื่องยนต์ก่อนเวลาอันควร ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เมื่อถึงเวลาที่กำหนด หรือตัวน้ำมันเครื่องมีความข้น หรือเปลี่ยนสีมากแล้ว ไม่ควรสตาร์ทเครื่องบ่อย ๆ หากตัวน้ำมันเครื่องเก่ามาก ข้นมาก และมีปริมาณน้อย เพราะจะทำให้เครื่องยนต์มีปัญหาได้ ใบตัดคอนกรีต ควรมีความคมพร้อมใช้งาน ไม่ทื่อเกินไป จนเป็นภาระของเครื่องยนต์
Author: calibration